เปาโล ดิบาล่า เปิดประสบการณ์เกี่ยวกับมุมองและทัศนคติ

เปิดประวัติส่วนตัวของ เปาโล ดิบาล่า ผู้เล่นของทีมชาติอาร์เจนติน่า

เปาโล ดิบาล่า สำหรับนักฟุตบอลกกองหน้า ในวัย 27 ปีของเขา ได้ผ่านแข้งมาหลายสนามแล้ว ผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าคนนี้ นั้นได้มีชื่อเรียกเต็มๆว่า เปาโล บรูโน เอกเซกิเอล ดิบาลา ซึ่ก็คงได้มีใครหลายๆคนที่ได้รู้จักกับเขาในนามของ เปาโล ดิบาล่า นั้นเอง เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง ในทีมชาติอาร์เจนติน่า

อีกทั้งยังเป็นชาวอาร์เจนติน่า ที่เล่นให้กับสโมสร ยูเวนตุส ในฐานะผู้เล่นกองหน้านั้นเอง เขามักจะถูกผู้คนนั้นเรียกว่า ” ลาโฆยา ” เพราะมันเป็นฉายาที่เขาได้มา เสื้อหมายเลข 10 ของเขามักจะทำให้ผู้คนจดจำ เขาได้เริ่มเล่นเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพในปี 2011 ให้กับสโมสรฟุตบอล อินส์ติตูโตเดกอร์โดบา เป็นสโมสรในอาร์เจนติน่า

และเมื่อในปีต่อมา ในปี 2012 เขาได้มีโอกาสได้ไปค้าแข้งในต่างแดนที่อิตาลี ซึ่งเขาได้ย้ายเข้าร่วมเล่นให้กับสโมสร ปาแลร์โม ซึ่งเขาก็ได้อยู่กับสโมสรทั้งหมดเพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้น โดยแบ่งการเล่นในเซเรียอา อิตาลี ทั้งหมด 2 ฤดูกาล และอีก 1 ฤดูกาลก็เล่นในเซเรียเบ และสามารถคว้าแชมป์ในเซเรียเบ ได้ประสบความสำเร็จอีกด้วย

ซึ่งตั้งแต่ ปี 2013 – 2015 เขาได้ถูกซื้อตัวไปเล่นให้กับ ยูเวนตุส ด้วยค่าหัวประมาณ 32 ล้านยูโร ดิบาล่าได้เป็นผู้เล่นสำคัญภายในทีมที่สามารถคว้าแชมป์เซเรียอา อิตาลี อีกทั้งยังมีผลงานที่ชนะ โกปปาอีตาเลีย  ได้อีกด้วย จากการลงเล่นทั้งหมด 100 นัด เป็นระยะเวลาที่เขาได้อยู่ร่วมกับยูเวนตุสนานถึง 3 ปี

เขาได้เป็นผู้เล่นที่มีชื่ออยู่ในทีมทุกครั้ง ที่ลงเล่นกับเซเรียอาทั้งหมด 2 นัด เมื่อปี 2015 ดิบาล่าได้ลงเล่นเป็นครั้งแรก ให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า และในปี 2018 เขาได้มีชื่อให้ลงเล่นฟุตบอลโลก  ในฐานะผู้เล่นที่ได้ถูกคัดเลือก จากทีมอาร์เจนติน่านั้นเอง

มุมมองและทัศนคติของเปาโล ดิบาล่า เกี่ยวกับตัวของเขา

ด้านบุคลิกภาพ 

ดิบาล่า เขาได้เล่าว่า เขานั้นเป็นคนที่ชิลล์ๆ สบายๆ เพราะเขาคิดว่าตัวของเขานั้น ไม่ได้เป็นคนพิเศษอะไร และโปรไฟล์ที่แสนจะธรรมดาเลยก็ว่าได้ เขาไม่ได้สนจนอะไรมากนักสำหรับสื่อข่าวต่างๆ เพราะด้วยการเป็นนักฟุตบอลของเขา ทำให้เป็นที่จับตามอง ของบรรดาสื่อข่าวทั้งหลายนั้นเอง

การเป็นคนที่มีชื่อเสียง

ย้อนกลับไปเมื่อในตอนที่ดิบาล่ายังเป็นเด็ก เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสมากนัก สำหรับการทำอะไรตามใจตนเอง และไม่ค่อยที่จะได้ทำอะไรเท่าไหร่ ครอบครัวของเขานั้น จึงได้บอกกับเขาว่า เมื่อเขาโตขึ้นเขาต้องสามารถช่วยเหลือตัวเอง และผู้อื่นได้ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาคิดได้ ในฐานะที่เขาได้เป็นคนที่มีชื่อเสียง ในวงการฟุตบอลคนหนึ่ง

มันได้สร้างความมั่นใจและความแข็งแกร่ง ซึ่งเขาเองก็ได้รับอิทธิพลอย่างมาก ในการตัดสิใจต่างๆ เขาคิดว่าการได้ทำอาชีพนี้ ควรได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกคน ทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ และทำให้เด็กรุ่นใหม่นั้น ได้ปฏิบัติตามสำหรับการเป็นแบบอย่างที่ดี

ซึ่งดิบาล่าเองก็ได้เข้าร่วมกับ King Children และ Common Goal เป็นโครงการที่ร่วมแสดงความคิดเห็น และทำให้ผู้คนได้เห็นคุณค่าในตัวของตัวเอง เพราะเขามองว่า มันเป็นสิ่งที่มีความสวยงาม จากภายในสู่ภายนอกออกมาให้เยาวชนได้เห็น

เส้นทางและจุดยืนของ ดิบาล่า ในตอนนี้

เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ก้าวเข้ามาอยู่ ณ ในจุดจุดนี้ได้ และไม่คิดว่า จะได้ยืนอยู่ในที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยความคุ้นเคยกับสิ่งรอบตัว และกับสถานที่ต่างๆ ที่มีประชากรเพียงแค่ 7,000 คนเพียงเท่านั้น เขาไม่เคยที่จะได้รับรู้ เกี่ยวกับเรื่องโลกภายนอกมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้เริ่มเดินทางเพื่อออกไปสู่โลกภายนอก

เขารู้สึกของคุณเป็นอย่างมาก สำหรับการเล่นฟุตบอลของเขา เพราะมันได้ทำให้ดิบาล่า นั้นได้ออกมาเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ เช่น วัฒนธรรมและภาษา ที่แตกต่างกันออกไป แถมยังมีโอกาสที่จะได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ อีกด้วย

และเมื่อเขาได้เดินทางด้วยเครื่องบินแล้ว มันทำให้เขาได้เห็นเมืองใหม่ๆ ทุกสิ่งที่เขาได้พบเจอนั้น ล้วนอยู่บนความเรียบง่าย และความสะดวกสบายอย่างเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุผลที่เขาได้บอกไปว่า เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเขาจะได้มายืนอยู่ในที่แห่งนี้ และในจุดจุดนี้ได้

เขาได้อาศัยอยู่ในประเทศอิตาลีนานมากถึง 10 ปี เมื่อได้มองกลับไปถึงความหลังนั้น เขามองว่าที่ทุกอย่างที่ผ่านมานั้นเป็นผลดีแก่ตัวเขาเสมอ ซึ่งในบางครั้งมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจปรารถนา และทุกอย่างนั้นเป็นก็ได้เป็นบทเรียน สำหรับตัวของเขาแล้ว

ถึงแม้ว่าอย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่ได้ปิดกั้นโอกาส สำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ เพราะเขานั้นยังมีเวลาอีกหลายปี เพราะตัวเขาเองมีอายุเพียง 27 ปี ยังมีอะไรอีกเยอะที่จะเข้ามา และจะต้องเจอในชีวิตนี้

ประสบการณ์ของ ดิบาล่า

ประสบการณ์ทั้งหมดที่เคยมีมา มันแสดงให้เห็นว่า เขานั้นได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะในตอนที่เขามีอายุได้ 21 ย่างเข้า 22 ปี เขาชอบใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ และเพื่อนสนิท ทั้งมีความรู้สึกว่าเขาเริ่มมีอายุขึ้นมากแล้ว ทั้งมีความคิดที่ได้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

เพราะเมื่อเขาได้ร่วมเดินทางกับ ยูเวนตุส มันทำให้เขาคิดว่า เขาได้พบกับอะไรใหม่ๆทั้งที่ เคยเห็นและไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นอะไรที่แปลกตาต่างกันออกไป มันสอนให้เขานั้น ไม่เคยคิดที่จะกลัวกับสิ่งใหม่ที่เข้ามา และนั่นแหละคือแรงบันดาลใจสำหรับตัวเขาเป็นอย่างมาก

มันมักจะมีหลายครั้งที่เขามักจะมองว่า ผู้คนจากเมืองเล็กอย่างเขา เมื่อออกไปพบกับสิ่งใหม่ๆ และออกไปข้างนอก มันจะมีผลอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เพราะการที่คนเรานั้นจะมีความกลัว นั้นได้เป็นเรื่องธรรมดา โดยการที่เขาได้ก้าวออกมาอยู่ในโลกภายนอก

มันทำให้เขาได้คิดถึงที่ที่เคยอยู่ บ้านที่เคยอาศัยนอน แต่มันเป็นการเสียสละที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ต่างจากเดิม เขารู้สึกว่า เขาได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในทางที่ดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้นด้วยจากระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา

การมีคนอยู่เคียงข้าง

สำหรับตัวของเขาเองคิดว่า เขานั้นได้รักษาบุคคลกลุ่มเล็กๆของเขา เอาไว้เคียงข้างเสมอ ในวันข้างหน้า เราจะเห็นได้ว่า เราสามารถที่จะได้พบกับผู้คนใหม่ๆ นั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับอนาคตข้างหน้า หลายครั้งที่คิดว่า เขาเหล่านั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หรือตลอดชีวิตการค้าแข้ง

แต่เขามองกลับคิดผิด เพราะว่าไม่มีใครสามารถที่จะอยู่กับเราไปได้ตลอด ด้วยมุมมอง ความคิด และทัศนคติ ทุกคนที่มีนั้นล้วนแล้วแต่แตกต่างกันออกไป ผู้คนตลอดระยะเวลา 9 ปี เมื่อเทียบรวมๆกันแล้ว เขายังคงคุย และติดต่ออยู่กับคนกลุ่มเดิม เพราะฉะนั้นแล้ว มันไม่มีอะไรในตัวเขาที่เปลี่ยนไปมากนัก

การหาแรงจูงใจ

แรงจูงใจที่ทำให้เขาได้กลายมาเป็นนักฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงมาได้ในทุกวันนี้ เพราะว่า เขานั้นเป็นคนชื่นชอบในการเล่นกีฬามาก เขายอมทำทุกอย่าง เพื่อทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในสมัยตอนที่ยังเป็นเด็กนั้นเอง โดยการเติบโตที่กลายมาเป็นผู้ใหญ่ ในช่วงที่ผ่านมานั้น มันได้เป็นแรงจูงใจที่จะได้พบกับอะไรใหม่ๆ และแน่นอนว่า เขาได้มีเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ในทุกๆปี

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก