เข้าสู่ระบบ ยูฟ่าเบท
เข้าสู่ระบบ ยูฟ่าเบท

สิงห์บลูส์ สิงห์สนามแรงดีไม่มีตก

สิงห์บลูส์ สิงห์สนามแรงดีไม่มีตก เรียกคืนความมั่นใจจัดเต็ม

สิงห์บลูส์ หากจะพูดถึงสโมสรฟุตบอลที่ไม่ว่าจะเอ่ยปากออกมา ทุกคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอนเพราะ ” เชลซี ” สโมสรฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ว่าได้ว่าเป็นหลีกสูงสุดของอังกฤษเลยก็ว่าได้ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่คนไทยนั้น มักจะเรียกกันว่า ” สิงห์บลูส์ ”

สโมสรที่เคยคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก 2 ถ้วยติดต่อกัน 2 ทำให้ผู้คนรู้จักกันดี อีกทั้งยังมีนักฟุตบอลที่มีฝีเท้า และหน่วยก้านดี อยู่ร่วมภายในทีม ทำให้งานนี้ทำอะไรก็เหมือนจะดูดีไปหมด ทำอะไรนั้นก็เหมือนจะเป็นใจไปซะทุกอย่าง หลังจากที่ได้ชนะ โดยที่ยังไม่เป็นฝ่ายที่ต้องเสียประตูเลยสักครั้ง และที่ผ่านมานั้นยังทำได้อีก 7 ประตู และเอาชนะใน 2 เกมซ้อนอีกด้วย ทำให้คราวนี้ช่วยเรียกความมั่นใจให้กับทีมได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนที่จะได้เชิญหน้าพบกับแรนส์

ถึงแม้ว่าในเกมนี้ จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ทีมต้องพบกับข่าวร้าย ที่ไม่มีใครได้รับรู้มาก่อน นั่นก็คือข่าวที่นักเตะภายในทีมนั้น ตรวจพบเชื้อโควิค 19 ทำให้ต้องกักตัวทันที นั่นก็คือ ไค ฮาแวร์ตซ์ นักฟุตบอลผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางของอังกฤษ ในวัยอายุ 21 ปี ที่ทำเอาครั้งนี้ ต้องเจอศึกหนัก

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยแข้งกำลังทั้งเก่าและใหม่ อีกทั้งยังมีระบบการจัดทัพของทีม ที่มีตัวทดแทน แบบไม่ต้องกังวลถึงสิ่งใด อยู่ที่ว่าแผนการเล่นนั้น จะปรับเปลี่ยนไปในเส้นทางใดเท่านั้นเอง

สิงห์บลูส์

การวางตัวนักเตะของสิงห์บลูส์

ซึ่งในเกมนี้มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด แข้งทีมชาติเยอรมัน แต่ทีมก็ได้เลือกใช้ จอร์จินโญ่ ลงมาแทนมาร่วมเล่นตำแหน่งกองกลาง ให้กับทีมโดยยืนร่วมกับ เมสัน เมาท์ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต็ด โดยที่ทั้งคู่นั้นได้โชว์ฟอร์มในการเล่น ออกมาได้อย่างลงตัวเลย

ที่ทั้งคู่สามารถที่จะเป็นฝ่ายผสานงาน และช่วยกันเป็นฝ่ายรุกได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถที่จะลงมาเล่นในกองหลัง และช่วยคุมเก่งได้ดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากที่ทั้งสองนั้น มีความเร็ว และความฟิตอยู่แล้ว นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหา ที่จะทำให้ทีมต้องกลัวคู่แข่งแต่อย่างใด

ส่วนผู้เล่นในตำแหน่งแนวรุกทางซ้ายนั่นก็คือ ติโม แวร์เนอร์ ส่วนตัวผู้เล่นที่อยู่ตำแหน่งทางขวานั่นก็คือ ฮาคิม ซิเย็ค และกองหน้าตัวเป้าจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก แทมมี่ อบราฮัม และในขณะที่เกมแนวรับของทีมนั้น เป็นแนวรับชุดเดิมทั้งหมดที่มี เบน ชิลเวลล์ , รีซ เจมส์ , คูร์ท ซูม่า , เอดูอาร์ เมนดี้ และ ติอาโก้ ซิลวา

ตั้งแต่ที่จริงได้เริ่มต้นเกมขึ้นมา ต้องบอกเลยว่าประตูแรกนั้น ที่ทีมคู่แข่งอย่าง แรนส์ ที่ดูฟอร์มการเล่นยังจะเป็นเหมือนว่าสู้ไม่ดีนัก โดยจังหวะที่ลูกโหม่งของ นาเยฟ อาเกิร์ด ดันไปติดมือของ คูร์ท ซูม่า ทำให้คราวนี้จะต้องเสียจุดโทษ ตั้งแต่เริ่มเกมในประตูแรกอีกด้วย อีกทั้งผู้ตัดสินยังคงมาว่า บอลเป็นจังหวะของ ” บอล ทู แฮนด์ ” ซึ่งในครั้งนี้นั้น ทิศทางบอลก็ดูเหมือนจะไม่มีแววเลย ที่จะเข้าประตูเลยไม่เป่า

แต่ต่อมาในอีก 3 นาทีหลัง โดยที่ ติโม แวร์เนอร์ เป็นจังหวะไปโดน ดัลแบร์ต เกี่ยวบอลร่วงในจังหวะที่ต้องล็อคหลบ และทำให้ แวร์เนอร์ยังได้โอกาสขึ้นมาสังหารเองโดยที่ไม่พลาด ซึ่งอาจจะเป็นภาพที่แปลกตากันสักหน่อย เนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านผ่านมา จอร์จินโญ่ ได้เป็นคนรับตำแหน่งหน้าที่นี้อยู่เป็นประจำ

แต่ในเกมนี้ กลับปล่อยให้กองหน้าทำหน้าที่สังหาร ที่ในก่อนหน้านี้ ในเกมจัดเต็มที่จัดการกับ คราสโนดาร์ ได้ย่างอยู่หมัดมาแล้ว แต่ก็ว่าไม่ได้ถ้าหากเกมนั้น จอร์จินโญ่ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ถูกเปลี่ยนตัว จนทำให้ต้องหาคนมาแทนที่ ก็อาจจะได้เป็นคนที่จัดการสังหารเองเลยก็ได้

เท่านั้นยังไม่พอ ในจังหวะที่ได้จุดโทษเป็นหนที่ 2 ของทีม ติโม แวร์เนอร์ ก็ยังคงต้องยกให้เขาเป็นดาวยิง เพราะในเกมนี้ ก็ต้องทำหน้าที่บุกสังหาร ที่ต้องยิงประตูแบบไม่พลาด ทำให้ทีมนั้นนำสกอร์ห่างคู่แข่งเป็น 2 ประตู ก่อนที่จะจบในการเล่นในครึ่งแรก

และในช่วงครึ่งหลัง ที่ทำให้ รีซ เจมส์ ได้ทำประตูจากการยิงไกลตั้งแต่เสาแรกถึง 3 ประตู จากลูกเปิดของ แทมมี่ อบราฮัม และทำให้เกมได้สิ้นสุดลง ตั้งแต่ตอนนั้นเลย แม้ว่าสกอร์ขาดแล้ว ผู้เล่นตัวหลักก็ยังไม่ได้พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องเล่นในเกมยุโรป ในเกมที่สามารถเปลี่ยนตัวนักเตะได้ 5 คน ก็ได้เปลี่ยนทั้ง ติอาโก้ ซิลวา , แทมมี่ อบราฮัม , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , เบน ชิลเวลล์และ ฮาคิม ซิเย็ค ออกมายกทีมเลยก็ว่าได้

และตำแหน่งผู้เล่นที่ได้รับยิงจุดโทษนั้น ก็คือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพราะว่าการทำประตูที่ผ่านมาของ จอร์จินโญ่ มันได้ทำพลาดมาแล้วถึง 2 ครั้งในซีซั่นนี้ ทำให้ต้องเปลี่ยนผู้ยิงจุดโทษลงมาแทนที่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการประกาศข่าวกันอย่างอ้อมๆ ว่าต่อไปในภายภาคหน้า เบอร์หนึ่งที่เป็นมือเพชฌฆาตของเชลซี จะเป็นชื่อของ ติโม แวร์เนอร์ สุดยอดดาวยิงของทีมคนต่อไป

สถิติคลีนชีต 5 เกมซ้อนของ สิงห์บูลส์ ในรอบ10 ปี

นอกจากนี้ในเกมที่ได้รับชัยชนะ ทำให้ทีมนั้นยังมีสถิติที่ดี เนื่องจากว่าเก็บคลีนชีต 5 เกมติดต่อกันของทุกครั้ง ทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของทีมเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเรียกความมั่นใจในลีก 3 นัดซ้อน เนื่องจากไม่มีการเสียประตูแต่อย่างใด

และนับตั้งแต่ฤดูกาลที่ แทมมี่ อบราฮัม นั้นได้เป็นดาวยิงคนแรก ที่ได้เก็บ 3 นัดซ้อน ในแชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ในปี 2015 และยังเป็นนักเตะคนแรกของอังกฤษ ได้ทำสถิติไว้หลังจากที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้ทำไว้เมื่อปี 2008 อีกทั้งที่เป็นชัยชนะในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก และยังคงเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ชนะในบ้านมากที่สุดอีกด้วย  ทำให้ทีมที่ดูเหมือนว่าจะลื่นไหลไปได้ดีจริงๆ

ถึงแม้ว่าผู้จัดการทีม จะมีเรื่องที่ต้องให้กังวลอยู่บ้าง และในสนามต่อเนื่อง ก็อาจจะต้องมีแข้งตัวหลักที่ต้อง ลงสนามต่อ ซึ่งในเกมอาจจะไม่ได้ ทำให้น่าเป็นห่วงนัก เพราะได้มีนักเตะที่มีศักยภาพที่สามารถไว้ใจได้พอสมควร ในตำแหน่งกองรุก

แต่ว่าเรื่องที่น่าเป็นห่วง นั่นก็คือแนวรับที่ในตำแหน่งเซนเตอร์นั้น อาจจะได้พึ่ง ติอาโก้ ซิลวา เป็นกำลังหลัก หลังจากที่ได้เป็นผู้ยืนคุมเกมไปเต็มๆ 90 นาที มา 2 นัดซ้อน แต่ก็ถือว่าโชคยังเข้าข้างที่เกมนี้เกมได้เร็ว เลยทำให้ออกมาพักได้ และการบริหารของผู้จัดการทีมในตอนนี้ จะหวังว่าผู้เล่นนักเตะในทีมของเขา มีกำลังฟิตพอที่จะลงสนามไปจนจบฤดูกาล 

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก