นักเตะดาวรุ่ง มอยเซส ไคเซโด้ ที่แมนฯ ยูไนเต็ด แอบจับตามอง

นักเตะดาวรุ่ง มอยเซส ไคเซโด้ ที่แมนฯ ยูไนเต็ด แอบจับตามอง เพื่อจะคว้าตัวมาร่วมทัพ

นักเตะดาวรุ่ง ด้วยความปลาบปลื้ม และความปีติยินดีที่เหล่าแฟนบอลของแมนฯ ยู เพราะในตอนนี้นั้นกำลังไปได้ดี และสามารถทำผลงานออกมา ได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เหยี่ยวข่าวที่น่าเชื่อถือได้อย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ก็ได้ออกมาให้ข่าวว่า แมนฯ ยู กำลังจับตามองหานักเตะที่มีฝีเท้าดี เข้ามาร่วมทัพด้วย

เนื่องจากในตอนนี้กำลังเจรจา กับตัวแทนบุคคลของ มอยเซส ไคเซโด้ นักเตะดาวรุ่งที่มีชื่อเสียง ในทัพลีก เอกวาดอร์ ของสโมสรอินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ ผู้เล่นที่สามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางได้ดีเยี่ยม ที่กำลังจะได้เข้ามาร่วมทัพ เพื่อเสริมสร้างทัพให้แข็งแกร่งขึ้น ในช่วงเดือน ม.ค. ที่กำลังจะถึงในต้นปีหน้านี้

ในวัยอายุ 19 ปี ของมอยเซส ไคเซโด้ เป็นที่รู้จักกันดีของเหล่าแฟนบอล เมื่อได้ยินชื่อของเขาผู้นี้ทุกคนจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน เนื่องด้วยดาวรุ่งในสโมสรอินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ นักเตะขวัญใจของชาวเอกวาดอร์ ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ เมื่อไม่นานมานี้

เขาได้เริ่มเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในช่วงของปีที่แล้ว และเขาก็สามารถทำผลงานออกมาได้ดีอีกด้วย และสำหรับความคิดเห็นของชาวเอกวาดอร์นั้น พวกเขามองว่า ไคเซโด้ จะต้องเป็นสตาร์ชื่อดัง ในตำแหน่งกองกลางของบ้านเกิดได้ และจะสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดสุดยอด ของวงการลูกหนังโลกได้

เกร็ดน่ารู้ที่แมนฯ ยู เลือกคว้าตัวนักเตะดาวรุ่ง มอยเซส ไคเซโด้ ผู้นี้มาร่วมทัพในฤดูกาล 2021

ในวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ มอยเซส ไคเซโด้ ว่าเพราะเหตุใด แมนฯ ยู ถึงเลือกเขาผู้นี้มาร่วมเล่นในฤดูกาลข้างหน้า ความน่าจะเป็นไปได้ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะได้ต้นรับลูกทีมคนใหม่นั้น มีอยู่สูงเลยทีเดียวในครั้งนี้ และในครั้งนี้ เราจะไปทำความรู้จักกับดาวรุ่งคนนี้ให้มากขึ้น

มีสไตล์การเล่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของ 2 แข้งดัง

มอยเซส ไคเซโด้ เขาเริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ ด้วยการเล่นในตำแหน่งของกองกลาง ที่คอยส่งบอลยาวให้กับเพื่อนร่วมทีม และต่อมานั้น เขาก็เริ่มฝึกฝน และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีขาดตกบกพร่องประการใด จนทำให้เขานั้นก้าวกระโดด ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถที่เขามี คือ เขามีความเร็วในการเล่นบอล

และความอดทนในเกมต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเล่นเกมรุกได้ดีอีกด้วย ที่ทำเอาคู่แข่งนั้นเล่นบอลยากไปกว่าเดิม เขาสามารถเล่นตัดบอลได้ โดยการวิ่งจากอีกฝั่งของสนามลงมาเล่นฝั่งได้ นอกจากนั้นเขายังมีความเฉลียวฉลาดที่รู้ทันคู่แข่ง และสามารถอ่านเกมได้ขาดเลยทีเดียว และเพราะเหตุผลนี้

ได้แสดงให้หลายคนนั้นมองว่า การที่จะให้ ไคเซโด้ มาร่วมเล่นกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ป็อกบา 2 แข้งดาวรุ่งนี้ นั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยให้พวกเขาดึงศักยภาพในตัวออกมาได้มากขึ้น และมีหลายคนที่แสดงความคิดเห็นว่า ไคเซโด้ เหมาะสมที่จะเป็นกองกลาง และจะสามารถทำมันออกมาได้ดีอีกด้วย

นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวว่า เขานั้นชอบสไตล์การเล่นของรุ่นพี่ ปอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เพราะมันสามารถทำให้เขานั้นได้เรียนรู้ และเก็บเอาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้จากทั้งสองคนนี้มาปรับใช้ ในการเล่นฟุตบอลของเขาอีกด้วย และเขานั้นก็ได้พยายามเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้ผลงานและฟอร์มการเล่นของเขานั้น ออกมาได้ดี และเป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกๆคน

การพบความสำเร็จตั้งแต่ยังเยาว์วัย

เมื่อเขาอายุได้ 13 ปี เขาได้พัฒนาฝีเท้า และการเล่นของเขา จนสามารถเข้าไปอยู่ร่วมกับอะคาเดมี่ อินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ และในครั้งนั้นเองทำให้เขาได้คว้าแชมป์ โกปา มิตาด เดล มุนโด้ กับทีมชุดเยาวชนได้อีกด้วย นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกในชีวิต ที่เขาได้อยู่ในวงการลูกหนังนี้มา

และยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาได้รับบทบาทหน้าที่ และตำแหน่งสูงสุดในทีม ก็คือการได้เป็นกัปตันทีมในชุดเยาวชนของ อินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ นั้นเองและสามารถคว้าแชมป์โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส มาได้ในการแข่งขันฟุตบอลรุ่นที่อายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งในเกมนั้นเขาก็สามารถพาทีมนั้น ล้มคู่แข่งอย่าง ริเวอร์ เพลท ได้อย่างชาญฉลาดเลยทีเดียว

การได้ลงเล่น เป็นตัวหลักกับทีมชุดใหญ่

การที่เขาได้ลงเล่นกับทีมชาติชุดใหญ่อย่าง อินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ ที่เขาเองนั้นสามารถลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 31 นัด และเขานั้นก็พึ่งเข้ามาเล่นเมื่อปี 2019 นัว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึง การเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขา โดยแบ่งการทำประตูได้ทั้งหมด 6 ประตู และสามารถทำแอสซิสต์ได้อีก 2 ครั้ง

ซึ่งในครั้งที่เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่นั้น เขาสามารถช่วยให้ อินเดเพนเดียนเต้ เดล บัลเล่ สามารถเอาชนะคู่แข่ง ในเกมการแข่งขัน โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ด้วยการทำสกอร์ประตูได้ 3 ต่อ 0 ซึ่งในเกมนี้นับว่าเป็นเกมที่เทียบเท่ากับการแข่งขันในทวีปอเมริกาใต้ ในเกมของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

แต่ในเกมนั้นก็เป็นเกมที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เนื่องจากทีมของเขานั้นสามารถไปไกลได้มากถึง 16 ทีมรอบแบ่งกลุ่มสุดท้าย เพียงเท่านั้นเอง เพราะทีมของเขานั้นดันไปแพ้ให้กับ ทีมชื่อดังของอุรุกวัยอย่างนาซิอองนาล ในช่วงยิงจุดโทษนั้นเอง

นอกจากนี้ เขายังมีรายชื่อติด เอกวาดอร์ ทีมชาติชุดใหญ่ และได้เขาไปเล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 อีกด้วย ซึ่งเขานั้นก็ได้โชว์ผลงานการทำประตู 1 ลูก และทำแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อีก 3 ครั้ง จากการลงเล่นทั้งหมด 4 นัด

ความฝันในวัยเด็กของ มอยเซส ไคเซโด้

ในวัยเด็กของเขานั้นค่อนข้างยากลำบาก ถึงขนาดที่ว่า โค้ชนั้นต้องออกค่าตั๋วในการเดินทางมาซ้อมในแต่ละครั้ง และยังช่วยในเรื่องของการกินอีกด้วย การที่เขาจะมาเป็นนักเตะระดับมืออาชีพในทุกวันนี้ได้ เขาต้องผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมาย

ซึ่งความฝันในวัยเด็กของเขานั้น คือการได้เป็นนักฟุตบอลระดับมืออาชีพ และทำตามสัญญาที่เคยพูดไว้กับคุณพ่อของเขา ว่าจะทำงานเก็บเงินซื้อบ้านดีๆสักหลังให้กับท่าน และให้ความสุขกับคนที่เขารักนั้นเอง และเขานั้นมีทีมรัก ที่อยู่ในใจคือ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เพราะเขานั้นใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสสักครั้ง ที่เขาได้เข้าไปอยู่ร่วมกับสโมสรนี้ เพราะเขานั้นได้เห็นตัวอย่างของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่แสดงให้เห็นว่า ถ้ามีความทุ่มเท และความพยายามแล้ว ก็จะสามารถเข้าไปอยู่ในทีมนั้นได้ นั่นเป็นการให้คำสัมภาษณ์ของเขาที่พูดกับสื่อ

ติดตามข่าวกีฬาได้ที่ Ufabet911 เว็บ แทงบอล ที่ดีที่สุด สมัครสมาชิก คลิก